วันศุกร์ที่ 10 สิงหาคม พ.ศ. 2555

ชะตาชีวิต (ใจสู้หรือเปล่า)


         นั่งอ่าน ชีวิตคนตกงาน อ่านไปแล้ว คิดตามไปด้วย จะพบว่า หลายคน นั้น ยังลำบากกว่าเราอีกตั้งเยอะ หลายชีวิต หลายตัวอย่าง ที่มาเล่าความอัดอั้นตันใจ แต่ถึงแม้ว่า ชีวิตพวกเขาจะไม่โรยด้วยกลีบกุหลาบ แต่ พวกเขา ต่างไม่เคยย่อท้อ ต่ออุปสรรค แม้ว่าจะยังไม่ถึงเป้าหมาย หรือความฝันที่ตั้งใจไว้ หลายคน เคยมีชีวิตการงานที่ดี แต่ ในที่สุด ความไม่แน่นอนก็คือความไม่แน่นอน อะไรก็เกิดขึ้นได้ ลองมาอ่านบทความที่ผมคัดลอดมาจากที่ต่าง ๆ  ซึ่งแต่ละคนถ่ายทอดการบอกเล่าด้วยน้ำตา และความรู้สึก กันดูครับ

ตกงานได้ 5 เดือนแล้วค่ะ งานที่เก่าทำได้ 2 ปีก็เริ่มมีปัญหากับเพื่อนร่วมงาน เขาในตำแหน่งสูงกว่าบีบให้ออกเพราะเริ่มกลัวว่าเราจะแทนที่เขาในอนาคต(มั้ง) ไม่รู้คิดไปได้ยังไง ยังไงเขาก็สำคัญกว่าเราไม่เท่ากันอยู่แล้วค่ะ จากที่จ่ายเงินอย่างสบายใจไม่เครียดจนกลายเป็นคิดมากว่าเวลาจะจ่าย มาตอนนี้เครียดค่ะเพราะไม่มีเงินติดตัวเลยเราโทรบอกทางบ้านว่าสบายดีแต่ตอนนี้มันลำบากมาก ไม่อยากให้ท่านต้องมาเครียดให้รู้ว่าเราสบายดีให้ท่านรู้สึกแต่สิ่งดีๆ ก็พอเพราะสร้างแต่ปัญหาให้มากมาเยอะแล้ว เพื่อนแท้กันก็กระจัดกระจายไปทั่วไทยทุกสารทิศบางคนก็เปลี่ยนเบอร์ ติดต่อไม่ได้  ทักในเฟสก็ทำเป็นไม่รู้จัก พวกแบบเจอกันไม่มีเลยไม่รู้จะปรึกษาใครดี มืดแปดด้านไปหมดแล้วค่ะ
เมื่อก่อนยังมีห้องให้อยู่ที่พักใจเวลาร้องให้ก่อนที่จะไม่มีค่าห้องจ่ายให้ เป็น 2 คืนที่ต้องทนนอนบนสะพานลอย  ใจหนึ่งก็กลัวอีกใจก็จะอยากตายไปเสียให้รู้แล้วรู้รอด สังเวชแท้นึกสภาพตัวเองตอนหมดลมหายใจช้าๆ นึกแล้วน้ำตา มันก็ไหลออกมาเมื่อไหร่ไม่รู้ ด้านได้อายอดสุดท้ายเลยตัดสินใจเข้าไปขอช่วยล้างจานในร้านอาหารตามสั่งแรกๆ เขาไม่รับโดนไล่ออกมาก็หลายที่ จนมีที่หนึ่งเขารับเพราะสงสารและพักอยู่ชั้นบนของร้านขอบคุณเจ้าของร้านอาหารแห่งนั้นมากๆ ค่ะ ที่ให้ชีวิตใหม่แก่เรา ไม่คิดไม่ฝันว่าตัวเองต้องมาอยู่ในสภาพแบบนี้ในวันนี้จริงๆ ค่ะ  ขอให้ทุกคนที่รอคอยความหวังให้สุขสมหวังเหมือนกันด้วยนะคะ โชคดีทุกคนค่ะ 

ฉันก็กลับไปอยู่บ้านไม่ได้เพราะพ่อมีภรรยาใหม่ ช่วงตกงานกลับไปอยู่บ้านได้ไม่นานพ่อก็ไล่ออกจากบ้าน ตอนนี้ออกมาอยู่หอพัก ฉันตัวคนเดียวต้องสู้ชีวิต ตอนนี้ได้งานแต่ก็ไม่ตรงสายงานเงินเดือนถูกมาก ได้เงินเดือนลดลงมาเหลือครึ่งนึงไม่พอกินด้วยซ้ำ ต้องพยายามอดทน อดกลั้น อดออม ไม่รู้ว่านายจ้างจะไล่ออกเมื่อไหร่เพราะทำงานไม่ตรงสายไม่สามารถช่วยงานเขา ได้มาก บางครั้งฉันก็นอนร้องไห้ ฉันไม่มีใครเลย ไม่มีแม้กระทั่งเพื่อนสนิท ฉันต้องทำอะไรคนเดียวทุกอย่าง วันนี้ขอเบิกตังค์นายจ้างเขาก็ไม่ให้ ฉันคงต้องกลับไปที่หอแคะกระปุกออมสินที่เหลือไม่กี่บาทเอาไว้กินข้าว ฉันรู้สึกใจชื้นที่มีคนประสบชะตากรรมเหมือนฉัน อย่างน้อยฉันก็ไม่ได้ทุกข์คนเดียว สู้ต่อไปนะคะ
 
ออกจากงานที่เก่าได้ 8 เดือนกว่าแล้วค่ะ ออกตอน ธ.ค. ปีแล้ว เงินเดือนก็6,xxx ที่ทำงานเก่าเป็นร้านอาหารเขาลดคนงานลงเนื่องจากเราได้เข้าทำที่นั่นไม่นาน ก็เลยกลายตัวเลือกแรกๆ ที่โดนหมายหัวไว้ในเรื่องปลดคนออกตอนแรกตกใจมากแต่ก็เข้าใจค่ะยังไงคนเก่าที่เขาทำมาก่อนเราก็สำคัญกว่าแน่นอน ตอนแรกอายมากๆ เลย ที่จบ   ป.ตรี มาแต่ต้องมาเป็นพนักงานเสิร์ฟ ทำไงได้คะ ก็ตระเวนไปสมัครแทบจะทุกที่แล้ว เกินกว่า 100 ที่ได้ไม่เคยได้เลย สัมภาษณ์ที่ไหนก็อยากได้ประสบการณ์ทั้งนั้น ว่างงานหลังจากจบมาก็ได้เกือบปีแล้ว สุดท้ายเลยตัดสินใจ เอางานอะไรก็ได้ ขอแค่มีงานทำ มีเงินเดือนก็พอ ตอนสมัครเราบอกว่าจบ ม.6 ค่ะเขาถึงรับ ถ้าจบสูงกว่านี้เคยทดลองแล้วทุกที่ไม่รับกัน แปลกจังคงกลัวจ่ายเงินเดือนแพงมั้งหรือว่ามีอะไรที่เราไม่เข้าใจอารมณ์  ณ ตอนนั้น มันกลับมาอีกแล้วตอนนี้เครียดมากๆ ไหนจะค่าห้อง ค่ากิน ส่งไปให้ที่บ้าน ตจว. และผ่อนรถด้วย อะไรๆ ก็เป็นเงินเป็นทองไปหมด ในใจตอนนี้นึกแต่เรื่องความประหยัด เรื่องของฟรีของแจกไม่ต้องจ่ายเงิน ไม่บอกทางบ้านค่ะกลัวว่าพ่อแม่จะเครียดเขาฝากความหวังไว้ค่อนข้างสูง แต่ทำไงได้ชีวิตมันได้แค่นี้จริงๆ เรามันจนค่ะต้นทุนชีวิตมันน้อย เสื้อผ้าใส่แต่มือสองบ้างบางครั้งเพื่อนข้างห้องก็เอาที่ไม่ใช้แล้วมาให้ มือถือก็แบบโทรเข้าออกแค่นี้ก็ดีมากแล้วจำได้เมื่อเดือนที่แล้ว เพื่อนที่เขาไปทำงานกรุงเทพ 5 คน กลับมาเชียงใหม่โทรมานัดทานข้าวกันค่ะ ในกลุ่มก็มีกัน 8 คน ก็ได้ดิบดีทั้งนั้นมีเป็น PR ห้างบ้าง ทำการตลาดบ้าง ได้เป็นเจ้าของกิจการร่วมกับแฟนเปิดร้านเพชร(ได้แฟนรวย) เป็นดีไซเนอร์ ทำบัญชีกัน  ตอนนั้นในใจอายมากเพราะไม่รู้มาก่อนเลยว่าแต่ละคนได้ดีถึงขนาดนี้  แล้วก็ถึงตาเราแล้วที่ต้องตอบคำถาม เพื่อนว่าทำอะไรที่ไหน เราก็บอกไปว่า ทำงานที่ร้านอาหาร ค่ะ แต่ไม่ได้บอกว่าตอนนี้ตกงานแล้ว กลัวว่าเพื่อนจะตกใจหรือตอกย้ำ หรือช่วยแนะแนวทาง  อยู่ต่อได้ไม่นานเพราะใจไม่ได้ อยู่ที่นั่นแล้วอยู่สัก 15 นาทีได้ก็ขอตัวออกมาเลยอ้างติดธุระอื่น  เรื่องจริงคือรีบเดินออกมาจากร้านออกมาร้องให้ค่ะ ตอนนั้นสมเพชตัวเองจริงๆ จับใจ ได้แต่คิดในใจว่าวาสนาคนเรามันไม่เท่ากันจริงๆ 
อยากจะให้กำลังใจคนที่กำลังหางานอยู่นะคะ อ่านเรื่องราวชีวิตเราแล้วคงได้อะไรบ้าง อย่างน้อยก็ยังมีคนที่เดือนร้อนหรือลำบากเราอีกเยอะค่ะ นี่แค่เล็กน้อยมากกว่านี้ยังมีอีกหลายร้อยหลายพันคนมากมาย  ตอนนี้ทำให้เราได้รู้ว่า เรียนจบมาสูงแค่ไหนก็ไม่สำคัญ โอกาสและความอยู่รอดต่างหากที่สำคัญมากกกว่า  โชคดีนะคนที่กำลังหางาน ให้กำลังใจกันด้วยนะคะ โชคดีค่ะ!!.

ผมก็ไม่ได้เอามาวิจารณ์หรือออกความเห็น เพียงแต่ว่าหวัง ใครที่ได้อ่าน ตัวอย่างของพวกเขาเหล่านี้ คนที่มีงานทำอยู่ หรือกำลังได้งานและคิดเปลี่ยนงานเรื่อย ๆ เพียงเพราะไม่ชอบ หรือ ไม่ถูกใจ ลองคิดกันดูใหม่สักนิดไหมครับ ว่า คนที่เขาลำบากตกงาน เขาสู้ชีวิตขนาดไหน
คนบางคน เลือกงาน เพราะว่าชอบความสบาย คนบางคนเลือกงานเพราะไม่ชอบเพื่อนร่วมงาน แต่คุณเคยคิดบ้างไหมว่า คุณมีคุณสมบัติและความสามารถในงานที่คุณได้ทำเพียงพอหรือไม่
ถ้าคุณรวยล้นฟ้า หรือมีพ่อแม่ให้สมบัติกองท่วมหัว หากมัวผลาญสมบัติต่อไปเรื่อย ๆ วันหนึ่งคุณอาจจะไปนอนสะพานลอยเหมือนคนจนบ้างก็ได้ใครจะรู้
         ผมขออุทิศบทความนี้ เพื่อตอบแทนคนที่ต่อสู้กับโชคชะตาด้วยความยากลำบากและไม่ย่อท้อ และขอเป็นกำลังใจให้กับทุกคนที่สู้ชีวิต ที่สำคัญ คือ ไม่เลือก และไม่เกี่ยงในงานที่เราทำได้ สักวันฝันคงเป็นจริงครับ