Red Car ไปได้ทุกที่ ถ้ามี (สี่ล้อแดง)
รถสองแถว หรือ คนเชียงใหม่ มักเรียกกันติดปากว่า (สี่ล้อแดง) เพราะมันสีแดง อิอิ
ตั้งแต่ ผมเกิด ถึงจำความได้ และโตมาจนถึงทุกวันนี้ ภาพที่เรา เห็น จนชินตา บนท้องถนน ระหว่าง รถเมล์ ก็จะมี รถสี่ล้อแดง นี่แหละ ที่วิ่งไปมา ในเมือง ทุกวัน ไม่้มีวัน หยุด ราชการ ตั้งแต่ เช้าตรู จนถึง กลางดึก แทบบอกได้เลยว่า 24 ชม. กันเลยทีเดียว
คนเชียงใหม่ นั้น ถ้าไม่ใช่ รถยนต์ หรือ มอเตอร์ไซค์ สิ่งนึ่งที่นิยม ใช้ คือ รถแดง เพราะ ราคาไม่แพง สมัยก่อน เริ่ม จาก 5 บาท แต่ เมื่อเวลา ผ่านไป น้ำมันแพง ของแพง ตอนนี้ ล่าสุด ปี 55 (อัพเดทข่าว)
ราคา จะอยู่ที 20 บาท ตลอดสาย ไม่ว่า คุณจะขึ้นจาก อีกมุม ของเมือง เชียงใหม่ไป ที่ไหน ก็จะราคา นี้ ทั้งใกล้ ไกล (กลางวัน) แต่หากไป ไกลเกินที่เขาคิดว่าไม่คุ้ม คนขับ อาจจะ เสนอราคาเพิ่มขึ้น เช่น 30 - 50 - 100 แล้วแต่ กรณี แต่หาก เป็น กลางคืน คุณอาจจะต้อง เหมาจ่าย ถ้าไปเที่ยวแล้วกลับที่พัก เพราะเขาจะใช้ อีกราคา หนึ่ง
นอกจากนี้ รถแดงอาจจะ สามารถเหมา ใช้สำหรับท่องเที่ยว โดยไปแบบ หมู่ คณะ หรือเริ่มจาก 3-5 คน ทั้งนี้ แล้วแต่ ตกลงกันเอง เช่น เหมาไป วัดพระธาตุ ดอยสุเทพ พระตำหนักถภูพิงค์ ราคา 1000 -1200 (รวมค่าน้ำมันแล้ว ถ้ารถตู้ อาจ แพงกว่า
ข้อควรระวัง หากคุณมาจาก อาเขต หรืิอ สถานนี รถไฟ หากยังไม่มีที่พัก หรือจองมาก่อน แล้วคุณขอให้ เขาพามาหา ระวัง คุณจะโดน ค่าหัวคิว ได้ เพราะโรงแรม หรือเกสเฮ้าส์ เขาจะจ่ายให้ รถที่มาส่ง
เช่น ราคา โรงแรม 500 เขาจะได้ 100 ซึ่ง แท้จริง คุณอาจจะเสีย ค่าที่พัก เพียง 400 หรือถูกกว่านั้น
ข้อดีของ สี่ล้อแดง คือ ราคา 20 บาทเริ่มต้น และต่อรองได้ เหมาได้
ข้อเสียของ สี่ล้อแดง คือ เนื่องจากราคาถูก เลยแวะรับคนตาม เส้นทางถ้ามีคนโบก ทำให้เสียเวลา
ดังนั้น ขึ้นรถแดง ทุกครั้ง ตกลง ราคาให้เรียบ ร้อย คุณจะสบายใจ ที่สุด ^_^
TUK TUK ตุ๊ก ๆ สามล้อซิ่ง
ตุ๊ก ๆ หรือ รถสามล้อ เป็นบริการ ในเชียงใหม่ ที่ มีพอ ๆ กับรถสี่ล้อแดง แต่ จำนวน น้อยกว่า ปกติ จะวิ่งใน เส้นทางไม่มาก มาเป็น ระยะ ไม่ถี่ เพราะเนื่องด้วย ส่วนมาก ค่าบริการ จะค่อนค้างสูง
ใกล้สุด 30 - 50 ไปไกล ก็ อาจ 100 - 500 ได้ แล้วแต่ระยะทา่งที่ตกลง
เหตุที่เป็นเช่นนี้ เพราะ ตุ๊ก ๆ คิดราคา แบบ เหมา จ่าย ไปคน เดียว หรือ สองคน สามคน จะคิดราคาเดียว ไม่เหมือน รถ สี่ล้อแดง ซึ่ง ตุ๊ก ๆ จะตรงไปยังจุดหมายทันที
ที่มา ของ สามล้อซิ่ง ผู้เขียน เคยใช้ บริการไม่บ่อยนัก หากไม่มีเหตุจำเป็น แต่เมื่อ ใช้บริการ แล้วพบว่า
ความเร็ว นั้น ต้องบอกว่า อยู่ใน ขั้น หวาดเสียว เลยที เดียว เพราะ ในขณะที่คุณนั่งอยู่ เหมือนอยู่บน รถไฟเหาะ ทั้ง ปาดซ้าย ย้ายขวา เหวี่ยงหน้า กระดกหลัง ฮะฮะฮะ ทั้งตื่นเต้นเร้าใจ เลยทีเดียว
ไม่ลองไม่รู้ครับ สนใจ ทดลอง มาเชียงใหม่ กวักมือเรียกได้ ไปส่งทุกที่ เหมือนกัน
ข้อ ดี คือ ทำเวลา่ได้ดี ไม่รับผู้โดนสารอื่น คิดเหมา ราคาเดียว
ข้อเสีย ราคาค่อนข้างสูงในการใช้บริการ และ ขับขี้ ด้วยความเร็ว เป็นนิสัย เพื่อทำเวลา เหอะ ๆ ^_^
Bus Station รถเมล์ประจำจังหวัด (วังเวงมาก)
รถเมล์ในเชียงใหม่ สมัยก่อน สีเหลือ ครับ วิ่งในตัวเมือง มีหลายสาย ค่ารถสมัยก่อน 3 บาท ซึ่ง ถามว่า ทำไม สูญหาย เพราะ คนพากันไปขึ้นรถแดง ส่วนใหญ่ เพราะ รถเมล์ 3 บาท ผู้ใหญ่ เด็ก 2 บาท แต่ วิ่ง ช้ามาก และรอนาน พอคนขึ้นรถแดง สมัยก่อน 5 บาท รถเมล์ เลยขาดทุน ทำให้สุดท้าย เลิกกิจการ เหลือแค่ รถสี่ล้อแดง วิ่ง นับเป็น เวลา เกือบ 10 ปี รถเมล์ เพิ่งคืนชีพมา เมื่อช่วง พืชสวนโลก ปี 49 และวิ่งมา จนถึงทุกวันนี้ แต่ว่า ก็มี ไม่มากนัก และยังคง มีรถน้อยมาก นาน ๆ จะมาสักคัน และที่ผมใช้ คำว่า วังเวง ไม่ใช่ว่ารถมี ผีนะ แต่ เพราะว่า ไม่่ค่อยมี คนขึ้น เนื่องจากรถมา นาน สายนึง บางที ช่วงกลาวัน มี 1 - 2 คน บางที วิ่งรถเปล่ายังมี เหอะ ๆ แต่ค่ารถนั้นถือว่า ถูกสุด 10 บาท ตลอดสาย
หากใครมาเที่ยว โดยรถทัวร์แล้ว ลงที่ สถานีขนส่งอาเขต ท่านสามารถ ขึ้นใช้บริืการได้ทันที เพราะว่า รถเมล์ นั้นจะจอด เทียบท่า อยู่ที่นั่นเลย และหากใคร อยากชม เมืองเชียงใหม่ ให้ครบถ้วนท่านก่ เลือกใช้ บริการได้ นั่งสบาย แอร์เย็น สนใจลองไปขึ้นดูครับ
เส้นทางเดินรถเมล์เชียงใหม่ 2 สาย
1.หนองประทีป - เชิงดอย ระยะทาง 20 กม. ซึ่งเป็นสายเดินรถเมล์เหลืองเดิมสายที่ 1
เริ่มจากประตูวิศว มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ -ประตูเกษตร - ตลาดพยอม - วัดสวนดอก - โรงพยาบาลมหาราช - เลี้ยวซ้ายไปหน้า ร.พ.เชียงใหม่ราม 1 - เลี้ยวขวา ผ่านหน้าตึกไอคอน - ตลาดช้างเผือก - เลี้ยวซ้ายผ่านหน้าสถานีขนส่งช้างเผือก -สนามกีฬาเทศบาล - เลี้ยวขวาผ่านวัดเชียงยืน - วัดป่าเป้า - เทศบาลนครเชียงใหม่ - เลี้ยวขวาไปตลาดต้นลำไย - หน้าไปรษณีย์ - ซิ้นเซียงหลี - ตลาดสันป่าข่อย - สถานีรถไฟ -แยกปอยหลวง - หน้าแมคโคร - ตรงข้ามทางเข้าม.พายัพ - คาร์ฟู - ขนส่งอาเขต - ร.ร.ดารา - ร.พ.แมคคอร์มิค -ร.ร.ปรินส์ -ตลาดต้นลำไย - เลี้ยวขวาผ่านวัดบุปผาราม - วัดมหาวัน - ถึงประตูท่าแพ - ตลาดสมเพชร -ซ้งจักรยาน - ประตูช้างเผือก -เชียงใหม่โบวล์ - โรงเรียนสอนคนตาบอด - เลี้ยวออกจากคูเมืองด้านในหน้า ร.ร.วัฒโน - เลี้ยวซ้ายผ่านร.พ.มหาราช -วัดสวนดอก - ตลาดต้นพยอม - สุดสายที่ประตูวิศวะ ม.ช.
2. สนามบิน - ตลาดทรายแก้ว ระยะทาง 20 กม. สายเดินรถเมล์เหลืองเดิมสายที่ 4
เริ่มจากสนามบินเชียงใหม่ -วิทยาลัยฟาร์อีสเทอร์น - ห้างนิยมพานิช - โรงเรียนวัฒโนฯ -เข้าคูเมืองด้านใน - ผ่านสวนสาธารณะหนองบวกหาด - ตลาดประตูเชียงใหม่ - เลี้ยวซ้ายผ่านหน้าโรงแรมมนตรี - ตลาดสมเพ็รช - ออกคูเมืองด้านนอง หน้าวัดหนองคำ -แยกธานินทร์ - หน้าร.ร.ปรินส์ - ร.พ.แมคคอร์มิค - ร.ร.ดารา - อาเขต - คาร์ฟู - หน้าม.พายัพ - หน้าแมคโคร -เลี้ยวขวา แยกปอยหลวง - สถานีรถไฟ - ตลาดสันป่าข่อย - จวนผู้ว่า -เลี้ยวซ้ายไปไนท์บาร์ซาร์ - หน้าวัดศรีดอนไชย - สุริวงศ์บุ๊คเซนเตอร์ - ร.พ.สวนปรุง -เลี้ยวซ้ายผ่านหน้านิยมพานิช - เลี้ยวขวาผ่านเซ็นทรัลแอร์พอร์ตพลาซ่า - เข้าสู่สนามบิน (เป็นร่างเส้นทางเบื้องต้น)
ข้อดี คือ ราคาถูก 10 บาท วิ่ง ตลอดสาย และไปได้รอบเมือง ถ้าเข้าใจ เส้นทางเดินรก
ข้อเสีย คือ มาช้า นาน ๆ มาคัน วิ่ง อ้อมออกนอกเมือง หาก ขึ้นผิดสาย อาจะต้องไปนั่ง สายใหม่
แผนที่เส้นทางเดินรถ
เส้นสีแดงคือเส้นทางเดินรถรอบเมืองเชียงใหม่ |
หมายเหตุ "ข่าวสั้นเรื่องรถเมล์"
เมื่อวันที่ 2 มีนาคม 2548 นายบุญเลิศ บูรณุปกรณ์ นายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่ นำคณะสื่อมวล ชนขึ้นรถเมล์ขาวขนาด 32 ที่นั่ง จำนวน 2 คัน วิ่งในเส้นทางที่คาดว่าจะยื่นขอสัมปทานจากกรม การขนส่งทางบก จำนวน 2 สาย โดยเป็นสายเดินรถเมล์เหลืองเดิมสายที่ 1 และ 4 ซึ่งออกแบบเป็นระบบรัศมีไขว้เพื่อให้เกิดจุดจอดรถเพื่อเปลี่ยนรถได้ อิงการออกแบบของสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร โดยรถเมล์ขาวที่ทดสอบนั้นภายในมีเบาะสีเทาเรียงติดกันเป็นสองแถวเหมือนรถสี่ ล้อแดง แต่มีเบาะด้านหลังอีก 1 แถว มีราวสำหรับโหน ติดเครื่องปรับอากาศ และใช้น้ำมันไบโอดีเซล
ทั้งนี้จากการร่วมสำรวจของ "พลเมืองเหนือ" พบว่า เป็นเส้นทางที่แล่นผ่านจุดชุมชนสำคัญคือสถานีรถขนส่งอาเขต ห้างคาร์ฟู มหาวิทยาลัยพายัพ สถานีรถไฟ ท่าอากาศยาน วิทยาลัยฟาร์อีสเทอร์น โรงเรียนวัฒโนทัยพายัพ โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เป็นต้น แต่บางเส้นทางเช่นที่ผ่านถนนซุปเปอร์ไฮเวย์ ยังวิ่งในเส้นกลางซึ่งไม่อาจขึ้นหรือลงรถได้ แต่จะมีการปรับไปใช้สายนอก และกำหนดจุดจอดรับผู้โดยสารที่เหมาะสม
นายบุญเลิศแถลงว่า ตามที่เทศบาลนครเชียงใหม่ได้รับงบประมาณปี 2547 เงินอุดหนุนจากกรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น กระทรวงมหาดไทย ตามแผนงานพัฒนาเมืองเชียงใหม่ให้เป็นศูนย์กลางการบินนานาชาติ จำนวน 62 ล้านบาท เพื่อซื้อรถยนต์โดยสารปรับอากาศขนาด 32 ที่นั่ง จำนวน 26 คัน เพื่อเป็นระบบขนส่งสาธารณะในเมืองนั้น
เทศบาลฯ ก็ได้จัดทำแบบสอบถามจำนวน 4,000 ชุด ระบุว่าคนเชียงใหม่ต้องการให้มีระบบขนส่งมวลชนโดยรถเมล์ร้อยละ 84 มีหรือไม่มีก็ได้ร้อยละ 8 และไม่ต้องมีร้อยละ 7 เส้นทางที่คิดว่าจะใช้มากที่สุด และระยะเวลาในการรอรถ 8-10 นาที ในช่วงเวลาปกติ และ 10-12 นาที ในช่วงเวลาเร่งด่วน จุดจอดรถไม่ควรห่างจากจุดที่สามารถเดินไปใช้บริการได้ราว 300 - 500 เมตร จึงนำมาเป็นฐานในการออกแบบเส้นทางการเดินรถและจุดจอดรถ กำหนดอัตราค่าโดยสารนักเรียน 5 บาท ผู้ใหญ่และนักท่องเที่ยว 10 บาทตลอดสาย ให้บริการตั้งแต่ 05.00 น - 22.00 น.
โดยหลังจากสรุปเส้นทางขอมติจากที่ประชุมคณะกรรมการขนส่งทางบกจังหวัด เชียงใหม่แล้วก็จะส่งเรื่องให้กรมการขนส่งทางบกออกฤษฎีการองรับสัมปทานเส้น ทาง และเทศบาลก็เปลี่ยนการจดทะเบียนรถ 30 คือรถรับจ้างไม่ประจำทาง เป็นรถ 10 คือรถประจำทางทันที โดยคาดว่าจะเริ่มให้บริการได้ในเดือนพฤษภาคม 2548
อีกทางหนึ่ง..คุณกำลังหารถบริการรับ-ส่งสนามบินเชียงใหม่-ในเมือง-อาเขต ลองโทรหาTaxi คุณชาติ...บริการดีรับถึงที่ ราคาไม่แพง..ตกลงคุยกันก่อนได้...ไม่ต้องคิดนาน..ลองเลยTel...0869191191
ตอบลบยังหารถไปส่งไม่ได้ ลองโทรหาบริการ taxi ออนไลน์ คุณชาติ ราคากันเองสุดๆ 120-150 บาท สำหรับลูกค้า ถ้าพอใจก็ขึ้น ถ้าไม่ติดลูกค้าท่านอื่น 15 นาที มารับเลยครับลองโทรหาบริการ taxi ออนไลน์ คุณชาติ 0869191191 เขาไปรับ-ส่งถึงสนามบิน-ในเมืองนิมมาน หน้ามช. หลังมช. ศิริมังคลาจารย์ สวนดอก ท่าแพ เจ็ดยอด เมญ่า เซ็นทรัล กาดสวนแก้ว สันติธรรม ขนส่งช้างเผือก อาเขต-ขนส่ง ครับ ราคากันเอง
ตอบลบ